นั่งเล่นสล็อต จนท้องผูก

นั่งเล่นสล็อต จนท้องผูก ทำยอย่างไร

     ภาวะท้องผูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่ การปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกายหรือไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย กลั้นอุจจาระบ่อยๆ ซึ่งผู้ที่มีอาการท้องผูกมากถึง 50% มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมหล่านี้ หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าท้องผูกหมายถึงการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่จริงๆ แล้วอาการท้องผูกไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งหรือความสม่ำเสมอในการขับถ่าย ตราบใดที่คุณสามารถถ่ายได้อย่างสบายๆ ไร้กังวล ไม่ต้องเบ่ง อุจจาระนิ่มจับตัวเป็นก้อนดี แม้ 2-3 วันจะถ่ายสักครั้งก็ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าการขับถ่ายเป็นเรื่องยาก หลายครั้งต้องนั่งนานถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อเบ่งถ่าย บางครั้งต้องใช้น้ำฉีด ใช้นิ้วล้วงช่วย ถ่ายไม่สุด เหมือนมีอะไรมาอุดกั้นอยู่ ถ่ายออกมาน้อย อุจจาระแข็งมีลักษณะเป็นเม็ด ผิวขรุขระหรือแห้งแตก รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าคุณมีอาการท้องผูกอย่างแน่นอน

นั่งเล่นสล็อต จนท้องผูก -SLOTXO.SLOT-TRUE-WALLET.COM

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ท้องผูก

     การทำงานของลำไส้ใหญ่ผิดปกติ หรือภาวะลำไส้เฉื่อย เป็นการที่ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวน้อยลงทําให้อุจจาระเคลื่อนลงมาช้ากว่าปกติ SLOTXO.SLOT-TRUE-WALLET.COM ซึ่งจะทราบได้จากการตรวจดูการเคลื่อนผ่านของอุจจาระภายในลำไส้ใหญ่ (colonic transit time) โดยให้ผู้ป่วยกลืนเม็ดยาที่มีแถบทึบแสง (sitzmark radiopaque markers) หลังจากนั้น 3 และ 5 วันจึงเอ็กซ์เรย์ดูจำนวน markers ที่เหลืออยู่ในลำไส้ใหญ่ ถ้ายังกระจายอยู่ทั่วไปแสดงว่าลำไส้ทำงานผิดปกติ อย่างไรก็ตาม สาเหตุนี้พบได้น้อยมาก คือ 5-6% เท่านั้น

ท้องผูกตลอดเวลา ส่งผลเสียหรือไม่

     ท้องผูกส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ หลายคนรู้สึกเครียด เบื่ออาหาร ไม่สดชื่น SLOT-TRUE-WALLET.COM กระปรี้กระเปร่า ปวดหัว ปวดหลัง และแสบร้อนบริเวณหน้าอก ปั่นสล็อตจนคอแห้ง กินน้ำมะพร้าวสิ สดชื่นน ไม่เพียงเท่านั้นการออกแรงเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นประจำยังก่อให้เกิดผลร้ายตามมามากมาย เช่น ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร หรือแผลปริรอบๆ ทวารหนักจากอุจจาระที่แห้งแข็งครูดหลอดเลือดจนฉีกขาด ทำให้ความดันในช่องทรวงอกเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยโรคหัวใจอาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ ทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดตาและหู ทำให้แรงดันในช่องท้องสูงขึ้นจนเป็นสาเหตุของไส้เลื่อนได้ ทำให้กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานอ่อนแอ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ท้องผูกเรื้อรังจนทำให้มีอาการของลำไส้อุดตัน ได้แก่ ปวดท้องมาก อึดอัดแน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียน ไม่ผายลม และไม่ถ่ายอุจจาระ

ทำอย่างไรให้หายท้องผูก

     หากใครท้องผูก สามารถที่จะแก้ไขได้หลายรูปแบบ หลายวิธีการ หนึ่งในนั้นที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราเอง ดังจะอธิบายได้ดังนี้ 50% ของผู้ที่มีอาการท้องผูกสามารถกลับมาขับถ่ายได้เป็นปกติ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตซึ่งได้แก่ รับประทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์มากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณอุจจาระและกระตุ้นการเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่ให้เร็วขึ้น รับประทานอาหารเช้าทุกวัน เพราะอาหารเช้าช่วยให้กระเพาะอาหารขยายตัวแล้วไปกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานเกิดเป็นความรู้สึกอยากถ่าย โดยควรเผื่อเวลาสำหรับการเข้าห้องน้ำหลังอาหารเช้าและการเดินหลังอาหารประมาณครึ่งชั่วโมงไว้ด้วย เพราะความรู้สึกอยากถ่ายนั้นเกิดขึ้นเพียงประมาณ 2 นาทีเท่านั้น หากไม่มีการถ่าย ความรู้สึกอยากถ่ายจะหายไปและอุจจาระก็จะแข็งขึ้นทำให้เกิดปัญหาท้องผูกตามมา ดื่มน้ำให้มากพอเพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย ออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ เพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ถ้าหากแก้ไขดังข้อแนะนำแล้วไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ยาช่วยในการปรับเปลี่ยนสุขภาพของลำไส้ เช่น การใช้ยาระบายควรใช้ตามแพทย์สั่งและใช้เท่าที่จำเป็น เพราะยาระบายมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็ออกฤทธิ์แตกต่างกันและอาจส่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ทั้งนี้ ยาระบายแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ดังนี้ ยาระบายที่ออกฤทธิ์โดยการเพิ่มปริมาณอุจจาระ (bulk-forming laxatives) ตัวยามีคุณสมบัติเช่นเดียวกับไฟเบอร์คือดูดซึมและอุ้มน้ำได้ดี เช่น Mucillin อุจจาระจึงเป็นก้อนและนิ่มขึ้น แต่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดและถ่ายยากได้หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ยาที่ออกฤทธิ์โดยการดูดซึมน้ำกลับเข้ามาในลำไส้ (osmotic laxatives) ทำให้อุจจาระนิ่มและถ่ายง่ายขึ้น เช่น แลคตูโลส (lactulose), Milk of Magnesia (MOM) ยากลุ่มนี้แพทย์มักแนะนำให้ใช้เป็นหลัก เนื่องจากไม่ค่อยพบปัญหาการดื้อยาแต่อาจทำให้ท้องอืดได้เช่นกัน ยาที่ออกฤทธิ์ทำให้อุจจาระนิ่ม (stool softener laxatives) เป็นยาที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน เช่น arachis oil ที่ทำให้อุจจาระนิ่มลื่นและเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้โดยง่าย ยาที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ (stimulant laxatives) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารเพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น เช่น มะขามแขก, bisacodyl ซึ่งเห็นผลเร็ว แต่หากใช้อย่างต่อเนื่องจะก่อให้เกิดอาการดื้อยาหรือท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดอาจทำให้โครงสร้างและการทำงานของลำไส้เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีจุดดำเกิดขึ้นในลำไส้ ยาระบายชนิดสวน เป็นการใช้ยากระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ร่วมกับการทำให้อุจจาระนิ่ม โดยตัวยาที่ใช้มีทั้งน้ำเกลือเข้มข้มที่อาจทำลายเยื่อบุผิวลำไส้ และยาที่มีส่วนผสมของโซเดียม ฟอสเฟต (sodium phosphate) ซึ่งเป็นสารประกอบประเภทเกลือที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ป่วยโรคไตได้ การใช้ยาสวนจึงต้องใช้อย่างระมัดระวังและควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ยาใหม่ที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้องผูกที่ยากลุ่มแรกใช้ไม่ได้ผล ได้แก่ ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ (prokinetic drugs) และยาที่กระตุ้นการขับน้ำเข้าไปในลำไส้ใหญ่ ซึ่งแพทย์ผู้รักษาอาจพิจารณาให้ยาในกลุ่มนี้เพิ่มเติมเป็นรายๆ ไป

สมัคร SLOTXO โบนัส 100 ฝาก ถอน ไม่มี ขั้น ต่ํา สล็อตxo เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ 2022

สมัคร SLOTXO โบนัส 100 ฝาก ถอน ไม่มี ขั้น ต่ํา สล็อตxo เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ 2021 สมัครสมาชิก สล็อตxo โอน ผ่าน วอ เลท ไม่มีขั้นต่ํา SLOTXO TRUE WALLET ไม่มีขั้นต่ํา เพียงแอดไลน์มาที่ LINE : @STWALLET หรือสแกน QR CODE ง่ายๆ เรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมดูแลท่านทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ค่ะ

อย่าปล่อยให้สายเกินแก้ ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดี

     หากคุณอายุมากกว่า 45 ปี หรือมีอาการอื่นๆ นอกเหนือจากท้องผูก เช่น ถ่ายเป็นมูกเลือด น้ำหนักลด ท้องผูกช่วงสั้นๆ จากที่เคยถ่ายได้ทุกวัน อุจจาระก้อนเล็กลงเรื่อยๆ คลำเจอก้อนในช่องท้อง หรือมีภาวะซีด แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมโดยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) เพื่อให้แน่ใจว่าอาการท้องผูกนั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ เช่น ลำไส้อักเสบ ติ่งเนื้องอก หรือโรคมะเร็งได้ง่าย ๆ